นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

บริษัท ไชน่า แมชชีน (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทฯ) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดทำเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ฉบับนี้ เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในการเก็บและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และบริษัทฯ ยืนยันว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดๆ ของท่านที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อีเมล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดให้เป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่

1. ข้อมูลชีวภาพ (Biometrics) เช่น ลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า ข้อมูลชีวมิติ
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามปรากฏในเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรมและ/หรือนิติกรรมสัญญา  เช่น ศาสนา เชื้อชาติ ที่อยู่ในสำเนาบัตรประชาชนของท่าน
3. อมูลประวัติอาชญากรรมทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เฉพาะกรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือตามกฎหมายอนุญาตเท่านั้น

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นในการดำเนินงานตามหน้าที่ของบริษัทฯ โดยจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน รายละเอียดดังต่อไปนี้ 

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่างๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียนในเว็ปไซต์ การสมัครงาน ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล วันเกิด ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ (เช่น บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น)  ข้อมูลบนเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เทปบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด และเอกสารทางกฎหมายอื่นๆข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง รายละเอียดงาน ประเภทของธุรกิจข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉินและการทวงถามหนี้ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายการเดินบัญชี ระดับรายได้ ภาระหนี้สิน ข้อมูลสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย การลงนามในสัญญา การขออนุมัติสินเชื่อ การทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการ ได้แก่

2. ข้อมูลส่วนบุคคลในช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ

3. ข้อมูลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ ตามสัญญา เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัทฯ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลของผู้ค้ำประกัน ผู้ได้รับมอบอำนาจ พนักงาน ลูกจ้าง และบุคคลท่านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัทฯ และบุคคลอื่นใดที่ท่านมีความสัมพันธ์ด้วยอันเกี่ยวเนื่องกับบริษัทฯ โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัทฯ ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนข้อความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัทฯ  

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

1. วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอมของท่าน เช่น วัตถุประสงค์ทางการตลาดและการสื่อสาร
เพื่อดำเนินการโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นและการนำเสนอเครื่องจักรและบริการของบริษัทฯ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น โดยบริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์และนโยบายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าวนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารประกอบการทำธุรกรรม และ/หรือนิติกรรมสัญญา (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) ที่ประกฏอยู่บนเอกสารระบุตัวตน หรือเอกสารประกอบการทำธุรกรรม และ/หรือนิติกรรมสัญญา โดยบริษัทฯ อาจดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบ หรือบริษัทฯ อาจขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการขีดฆ่าหรือปิดทับข้อมูลในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวด้วยตนเอง

วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน            
บริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นและอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯมีฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing)   หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่านโดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

1. เพื่อการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมหรือนิติกรรมสัญญากับบริษัทฯ เช่น การทำสัญญาและดำเนินการตามหน้าที่ในสัญญาการดำเนินขั้นตอนการวางเงินมัดจำ การอำนวยความสะดวกแก่กระบวนการขออนุมัติสินเชื่อการมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอกและการโอนสิทธิเรียกร้อง
2.  เพื่อการติดต่อสื่อสาร เช่น การขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติมการนัดหมายดำเนินการการทำสัญญาเพื่อให้ผู้เช่าซื้อลงลายมือชื่อการติดต่อเพื่อแจ้งการชำระหนี้
3. เพื่อการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร เพื่อดำเนินการโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสารประชาสัมพันธ์โปรโมชันและการนำเสนอเครื่องจักรและบริการของบริษัทฯ
4. เพื่อปรับปรุงในการดำเนินธุรกิจ เช่นเพื่อประเมิน วิจัยการตลาด
5.เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่นเพื่อปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐซึ่งรวมถึงคำสั่งของหน่วยงานรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือให้ความร่วมมือกับศาลผู้มีอำนาจ หน่วยงานของรัฐบาล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเมื่อบริษัทฯมีเหตุผลให้เชื่อว่ากฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ ปฏิบัติและหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อเปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานด้านภาษี และหน่วยงานรัฐและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆและตรวจสอบหรือป้องกันอาชญากรรม
6.เพื่อป้องกันประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ เช่น เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อใช้สิทธิของบริษัทฯและปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ เมื่อจําเป็น และชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่นเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน เรื่องการละเมิดกฎหมายเพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินเพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อกําหนดและเงื่อนไขของบริษัทฯเพื่อตรวจสอบและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่ของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึง การใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆเพื่อป้องกันและรายงานอาชญากรรมที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น เพื่อดำเนินการบริหารการจัดทำรายงาน นโยบายภายในตามขอบเขตในการปฏิบัติงานของบริษัทฯ
7.เพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจต่อบริษัทฯ เช่นเพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่นๆ(เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริตภัยคุกคามทางไซเบอร์ การผิดนัดชำระหนี้/ผิดสัญญา การทำผิดกฎหมายต่างๆ (เช่นการฟอกเงิน ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และชื่อเสียง) รวมถึงการทำการตรวจสอบและบันทึกเป็นการภายในการจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านความเสี่ยงทางธุรกิจต่อบริษัทฯระบบและการควบคุมธุรกิจอื่นๆและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทฯ การป้องกันรับมือ ลด หรือดำเนินการอย่างอื่นในทำนองเดียวกันเพื่อให้ความเสี่ยงข้างต้นหมดสิ้นไป
8.เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมของบริษัทฯเช่น ในกรณีของการขาย การโอน การควบรวม การฟื้นฟูกิจการ หรือกรณีอื่นที่คล้ายกันบริษัทฯอาจโอนข้อมูลของท่านให้กับบุคคลที่สามหนึ่งฝ่ายหรือมากกว่าในฐานะส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว
9. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของบุคคล
10.เพื่อการดำเนินการตามหน้าที่อื่นๆ ของบริษัทฯสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯกับท่าน ทั้งนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของบริษัทฯ อาจเป็นผลให้ บริษัทฯไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล
1.บริษัทฯจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากการดำเนินงานในการทำประกันเครื่องจักรซึ่งบริษัทฯกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทยกำหนดและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการบุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
2. บริษัทฯ ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงาน/บุคคลภายนอกยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นที่ต้องเปิดเผยให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเมื่อบริษัทฯ ได้รับการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงานที่มีอำนาจตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562 รองรับ เช่น เพื่อป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกายเพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย การตั้งข้อหาการใช้สิทธิ์ปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และการป้องกันกรณีฉ้อโกง เป็นต้น 

การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
1.บริษัทฯเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระบบงานสารสนเทศของบริษัทฯและจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานเพื่อให้ระบบงานสารสนเทศของบริษัทฯและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัย โดยมีมาตรการ ดังนี้­         
- จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่หรือพนักงาน­         
- จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต­         
- จัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลของบริษัทฯ อีกต่อไป­         
- มีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือกรณีที่ต้องสงสัยและต้องแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
2.มาตรการในการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ­
- การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลในระบบตอบรับทางออนไลน์โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าถึงเฉพาะบุคคลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น­    
- การป้องกันการเข้าถึงเอกสารตอบรับทางโทรสารโดยจำกัดจำนวนผู้เข้าถึงเฉพาะบุคคลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น
- การป้องกันการเข้าถึงเอกสารตอบรับทางอีเมลโดยการสร้างรหัสผ่าน จำกัดจำนวนผู้เข้าถึงและเฉพาะบุคคลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น
3.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล­         
- บริษัทฯเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ­
- การกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลบริษัทฯ จะพิจารณาถึงจำนวน ลักษณะการใช้งาน วัตถุประสงค์ในการให้บริการและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ และระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยมีระยะเวลาในการจัดเก็บ 10 ปี 

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้กระทำได้ดังต่อไปนี้
1.ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทฯเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Right of Access) และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน
3.ท่านมีสิทธิให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ (Right to Rectification)
4.ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ (Right to Erasure)
5.ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Restriction of Processing)
6.ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right toData Portability)
7.ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Object)

ในการใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่อยู่ข้างล่าง เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ และบริษัทฯจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านตามขอบเขตของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในกรณีที่บริษัทฯ ปฏิเสธคำขอของท่านบริษัทฯจะให้เหตุผลการปฏิเสธคำขอของท่านด้วย