บริษัทซีเออีซี แมชชีนเนอรี่ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2556ดำเนินการธุรกิจให้เช่าเครื่องจักรกลหนักและงานบริการที่เกี่ยวข้อง อาทิงานขุดขนชั้นดิน โดยใช้รถขุดขนาดใหญ่และรถดัมพ์ Off-road เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีเครื่องจักรกลหนักให้เช่าหลากหลายประเภทกว่า 200 คัน อาทิเช่น รถขุดทุกขนาด (ล้อยางและตีนตะขาบ),รถขุดแขนยาว, รถขุดติดหัว Breaker, รถขุดติดหัว Vibro, รถดัมพ์แบบ On-road และ Off-road รถน้ำ, รถบด,รถเกรด, รถดันดิน, รถปูยางมะตอย, รถเครน, เครนตีนตะขาบ,รถเจาะเสาเข็ม, รถโม่ปูน,รถยกตู้คอนเทนเนอร์ทั้งตู้หนักและตู้เปล่า, รถยกโฟร์คลิฟท์, รถกระเช้า เป็นต้น บริษัทฯ มีศูนย์บริการเครื่องจักรกลหนักครอบคลุมไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศกว่า 19 สาขา เพื่อบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วต่อความต้องการของลูกค้า

หลายปีที่ผ่านมาบริษัท ซีเออีซี แมชชีนเนอรี่ จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทเอกชนขนาดใหญ่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของประประเทศจีนที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ อันดับต้นๆ ของโลกที่ให้ความไว้วางใจ บริษัทเราได้แก่ China State Construction, China Communications Construction, China Railway, Sinopec, China Petroleum, Sinohydro, China Habour เป็นต้น และยังมีผู้รับเหมารายใหญ่ของไทยหลายแห่งที่ใช้บริการของเรา อาทิ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เป็นต้น

ในปี2561 บริษัทฯ ได้ก่อตั้งบริษัทลูกชื่อ บริษัท ไชน่า แมชชีน (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายครื่องจักรกลหนัก XCMGเป็นแบรนด์อันดับที่ 1 ในประเทศจีน ซึ่งเป็นอันดับ3 ของโลกปัจจุบันบริษัทฯมีสาขาให้บริการทั่วประเทศกว่า 18 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ที่ให้บริการทั้งงานขายงานเช่าและงานซ่อมแซมให้กับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งบริษัทฯยังคงมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตปัจจุบันบริษัทฯมีพนักงานกว่า 350 คนโดยมีช่างผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครื่งจักรกลหนักกว่า 100 คนและ คนขับเครื่องจักรกลหนักที่มีใบ Certificate กว่า 100 คน ปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้จากการขายและให้เช่าเครื่องจักรหนักกว่า 2,000 ล้านบาทและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว